การเลือกซื้อรถบรรทุกสักคันก็ว่าเป็นเรื่องยากแล้ว
แต่ทว่าการจะขายออกให้ผู้รับซื้อรถบรรทุก ไปเป็นรถบรรทุกมือสองกลับเรื่องที่ยากกว่า
ไม่ใช่ว่าเจ้าของรถจะตัดใจขายไม่ได้ แต่เรื่องของการให้ราคาของมือสองอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าของรถลังเลที่จะขายออกไป
ซึ่งการจะให้ราคามากหรือน้อยนั้นก็อยู่กับหลายปัจจัย
และส่วนหนึ่งที่มีผลต่อราคาของรถด้วย ก็คือสภาพตัวถังภายนอกของรถบรรทุก
รู้หรือไม่ผู้รับซื้อรถบรรทุกจะเคาะตัวถังรถเพื่อเช็กสภาพ
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะขายรถบรรทุกของคุณ
ไม่ว่าจะขายให้ผู้รับซื้อรถสิบล้อหรือผู้ที่รับซื้อรถหกล้อ จะต้องมีการมาตรวจเช็กสภาพรถก่อนที่จะประเมินราคา
ตรงนี้เป็นขั้นตอนมาตรฐานปกติอยู่แล้ว แต่ส่วนที่อาจทำให้เจ้าของรถอาจแปลกใจอยู่บ้างในการตรวจเช็กสภาพก็คือ
การเคาะไปที่รอบ ๆ ตัวถึงของผู้รับซื้อรถบรรทุก ซึ่งอันที่จริงแล้วก็ไม่สิ่งที่แปลกประหลาดอะไร
เพราะนั่นคือขั้นตอนของการเช็กเรื่องสภาพสีของตัวถังรถนั่นเอง
การเคาะไปที่รอบตัวถังรถบรรทุกนั้น
ก็เป็นการเช็กดูว่ารถคันนั้นมีการทำสีมาบ้างหรือไม่ มีส่วนไหนที่เก่าเป็นสนิมและมีการโป๊วสีปิดทับไว้บ้าง
โดยจะใช้วิธีการฟังเสียงดูว่าตรงไหนเสียงออกทึบ ๆ ตรงไหนเสียงโปร่ง ๆ
ซึ่งตรงไหนที่มีการโป๊วสีไว้หนาเสียงก็จะทึบ ๆ ก็แสดงว่าจุดนั้นอาจจะเป็นสนิม
หรือไม่ก็เกิดอุบัติเหตุในจุดนั้นหลายครั้ง ทำให้ต้องมีการซ่อมแซมสีใหม่บ่อยครั้ง
ส่วนจุดไหนที่เคาะแล้วเสียงสะท้อนออกมาโปร่ง
ๆ ก็อาจจะหมายความว่าผ่านการทำสีไม่บ่อยหรืออาจไม่มีการทำเสียเลย ตรงนี้ผู้รับซื้อรถสิบล้อก็จะนำมาใช้ในการประเมินราคาด้วยนั่นเอง
ก่อนเรียกผู้รับซื้อรถบรรทุกมาประเมิน เช็กรถตนเองให้ดีก่อน
จะเรียกว่าเป็นปัญหาสุดคลาสสิกเลยก็ว่าได้ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย
คนที่ต้องการขายก็ย่อมจะต้องการราคาที่สูง ส่วนผู้ซื้อก็ต้องการซื้อในราคาที่ต่ำ
นั่นจึงทำให้การตรวจสภาพรถโดยเฉพาะเรื่องตัวถังภายนอกต้องละเอียด
จนบางครั้งเหมือนกับว่ามาจับผิดกันเลยทีเดียว แต่นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
และหลายครั้งที่ระหว่างเจ้าของรถกับผู้รับซื้อรถบรรทุกมักจะตกลงกันไม่ได้ เพราะต่างฝ่ายต่างเห็นไม่ตรงกันเรื่องราคา
หากคุณเป็นเจ้าของรถบรรทุกและต้องการจะขายรถให้ได้เพื่อที่จะนำเงินมาใช้ในเรื่องต่าง
ๆ สิ่งที่ควรจะทำเพื่อลดปัญหาระหว่างคุณที่เป็นเจ้าของรถกับผู้ที่มารับซื้อก็คือ
คุณควรตรวจสภาพรถของตนเองอย่างละเอียดก่อนที่จะเรียกผู้รับซื้อมาประเมินราคา
ถ้าคุณเช็กสภาพอย่างละเอียดคุณจะพบว่าที่แท้จริงรถคุณมีสภาพอย่างไร เช็กแล้วก็ลองประเมินราคาไปด้วย
แบบนี้เวลาเรียกผู้รับซื้อมาประเมินก็จะตกลงราคากันโดยง่าย
คงได้ทราบกันแล้วว่าอีกจุดหนึ่งที่มีผลต่อการประเมินราคาการซื้อขายของผู้รับซื้อรถบรรทุก ก็คือสภาพความสมบูรณ์ของตัวถังภายนอก จุดนี้ผู้รับซื้อรถบรรทุกในทุก ๆ รายจะต้องตรวจเช็กเหมือนกันหมด ดังนั้น ก่อนจะประเมินราคากัน คุณเองก็ควรตรวจเช็กสภาพรถในส่วนนี้ให้ดีก่อน เพียงเท่านั้นการซื้อ-ขายก็จะราบรื่นขึ้นแล้ว